ในห้วงยามของมหกรรมฟุตบอลโลกคราวใด แฟนบอลทั่วโลกต่างจดจ่อกับเกมกีฬาอันยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ
จะเป็นรองก็เพียงโอลิมปิกเท่านั้น สีสันและความตื่นเต้นมักเริ่มตั้งแต่ต้นจนจบการแข่งขัน
ทั้งสนุก สมหวังและผิดหวัง การเล่นนอกเกมและความมีน้ำใจมีให้เห็นในสนามอยู่เสมอ
ฟุตบอลโลกจัดขึ้นทุก ๆ 4 ปี ฟุตบอลโลกครั้งแรกเริ่มต้นเมื่อปี 1930 เรื่อยมาจนปัจจุบัน นานาประเทศทั่วโลกต่างชิงชัยเพื่อให้ได้ผ่านรอบสุดท้ายเพราะนั่นคือเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจของคนในชาตินั้น ๆ ครั้งแรกอุรุกวัยเป็นเจ้าภาพมี 13 ประเทศเข้าร่วมแข่งขัน และครั้งถัดมาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 16 ทีมเข้าแข่งขัน จนถึงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 12 ที่สเปนเป็นเจ้าภาพได้เปลี่ยนเป็น 24 ทีมเข้าร่วมรอบสุดท้าย และอีกสี่ครั้งถัดมาจนถึงครั้งที่ 16 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ ก็ได้เปลี่ยนจำนวนทีมเป็น 32 ทีมเข้าร่วมรอบสุดท้าย อนึ่งทางฟีฟ่าได้ประกาศว่าในปีค 2026 จะเพิ่มจำนวนทีมเป็น 48 ทีมในรอบสุดท้าย
ในมหกรรมฟุตบอลโลกไทยยังไม่เคยเฉียดเข้าใกล้หรือผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายแม้สักครั้งเดียว
ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ที่จะทะลุเข้ารอบสุดท้ายได้ ซึ่งยังไม่แน่ว่าการเพิ่มจำนวนทีมของฟีฟ่าจะทำให้ไทยมีโอกาสเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้หรือไม่
นี่เป็นคำถามที่ทำให้ฉุกคิดพอสมควร แน่ล่ะ ฟุตบอลลีกในประเทศมีแนวโน้มที่ดี
มีความแข็งแกร่งขึ้นแต่ด้วยรากฐานโครงสร้างของฟุตบอลไทย
จำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขและใช้เวลาบ่มเพาะกันพอสมควร เพื่อให้นักเตะในระดับเยาวชนขึ้นมา
ต้องสร้างทัศนคติและความเข้าใจเกมเจ้าใจระบบการเล่นตลอดจนความแข็งแกร่งของนักเตะ
สิ่งเหล่านี้เป็นวิถีทางฟุตบอลที่ถูกต้อง ในทางกลับกันจะเห็นผลช้า แต่มีอีกทางที่ทำได้และไม่ต้องลุ้นให้ลำบากในการเข้าไปแข่งรอบสุดท้ายนั่นคือ
การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเสียเอง
ฟีฟ่าเองก็ได้มีนโยบายกระจายการแข่งขันไปทุกภูมิภาคของโลกอยู่แล้ว
หากมีความพร้อม นั่นเท่ากับว่า ถ้าประเทศไทยได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพร่วมกับกลุ่มประเทศในอาเซียน
ไทยจะได้เล่นรอบสุดท้ายไปโดยปริยาย ทีนี้ความภาคภูมิใจของคนในชาติจะได้สมหวังกับความฝันที่ไทยได้เล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นจริงเสียที
แต่มีตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ ในปี 2002 ญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกร่วมกับเกาหลีใต้
ซึ่งญี่ปุ่นได้เล่นรอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติในฐานะเจ้าภาพ
แต่ก่อนหน้านั้นญี่ปุ่นก็ประกาศศักดาผ่านรอบคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกในปี
1998 ที่ฝรั่งเศสได้สำเร็จ และปีนั้นก็เปลี่ยนจาก 24 ทีมเป็น 32 ทีมเป็นครั้งแรก
กลับมาที่ทีมชาติไทยการที่ฟีฟ่าเปลี่ยนให้เป็น 32 ทีมสุดท้าย เรายังไม่เฉียดใกล้ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเลย แต่ปี 2026 ฟีฟ่าได้ประกาศเพิ่มจำนวนทีมขึ้นอีกเป็น 48 ทีม จาก 24 ทีมเป็น 32 ทีม ญี่ปุ่นได้ทำสำเร็จมาแล้ว มองในแง่ดี ทีมไทยก็มีสิทธิ์อยู่เหมือนกันจากการเปลี่ยนเป็น 48 ทีม
มีเหตุผลรองรับอยู่พอสมควรว่าจากการที่นักเตะเยาวชนได้รับการพัฒนากันเป็นระบบตลอดจนมีลีกอาชีพที่แข็งแกร่ง ทำให้ความฝันจะเห็นไทยผ่านไปเล่นฟุตบอลโลกมีความเป็นไปได้มากขึ้น แต่ถ้าจะให้ดีทำให้สำเร็จก่อนที่ไทยจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในปี 2034 ญี่ปุ่นทำสำเร็จมาแล้ว อยู่ที่ไทยเองจะวางแผนและกล้าคิดกล้าฝันหรือเปล่า ถึงวันนั้นจะพูดอะไรก็ดูดีไปหมดไม่ใช่แค่คิดจะเป็นเจ้าภาพเท่านั้นที่จะได้เล่นฟุตบอลโลก