พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ได้ชื่อว่าเป็นลีกอันดับ 1 ของโลก เนื่องจากมีทีมใหญ่อยู่หลายทีม ไม่ได้มีแค่หนึ่งหรือสองทีมที่ผูกขาดแชมป์ แถมบรรดาทีมขนาดกลางและขนาดเล็กยังสามารถสู้กับทีมใหญ่ได้อย่างสูสี จึงทำให้เกมการแข่งขันทุกนัดเต็มไปด้วยความตื้นเต้นเร้าใจ ทั้งนี้เนื่องจากแต่ละทีมเต็มไปด้วยนักเตะฝีเท้าเยี่ยม แต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นนักเตะที่ถูกซื้อตัวเข้ามาทั้งสิ้น นักเตะที่สโมสรปั้นขึ้นมาเองมีเพียงหยิบมือ ซึ่งมีผลการวิจัยรายงานว่า จากนักเตะดาวรุ่ง 1.5 ล้านคนในอังกฤษ มีเพียง 180 คนเท่านั้นที่สามารถแจ้งเกิดแล้วค้าแข้งอยู่ในเวทีพรีเมียร์ลีกได้ ซึ่งคิดเป็น 0.012% เท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมใหญ่ที่ต้องการประสบความสำเร็จในทุกฤดูกาล ทำให้ไม่สามารถลองผิดลองถูกกับนักเตะดาวรุ่งได้ เด็กฝึกมากมายจึงมักถูกส่งไปให้สโมสรขนาดเล็กยืมตัวก่อนจะลงเอยด้วยการปล่อยออกจากทีมไปในที่สุด เมื่อตกอยู่ในความกังวลเช่นนั้น นักเตะดาวรุ่งที่มั่นใจในฝีเท้าของตัวเองจึงเลือกตัดสินใจเดินจากไปตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อย้ายไปอยู่กับสโมสรชั้นนำที่พร้อมให้โอกาสลงสนามทันที อีกทั้งยังได้เล่นร่วมกับนักเตะเก่ง ๆ ที่จะช่วยยกระดับฝีเท้าของตัวเอง ดังเช่นในกรณีของ พอล ป็อกบา และ จาดอน ซานโช

ป็อกบาโมเดล

เมื่อปี 2009 พอล ป็อกบาในวัย 16 ปีตัดสินใจย้ายจากฝรั่งเศสมาร่วมทีมอคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบที่สร้างความงุนงงให้แฟน ๆ กีฬาของ VWIN เลยทีเดียวว่าทีมกำลังคิดอะไร 2 ปีถัดมาเขาก็พาปีศาจแดงคว้าแชมป์เอฟเอยูธคัพ จนสตาฟฟ์โค้ชเยาวชนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาพร้อมแล้วสำหรับทีมชุดใหญ่ ในฤดูกาล 2011-12 เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จึงเลือกเก็บกองกลางดาวรุ่งวัย 18 ปีไว้กับสโมสรมากกว่าปล่อยยืมตัว แต่แทนที่จะส่งลงสนามกุนซือชาวสก็อตกลับเก็บเขาไว้บนซุ้มม้านั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ โดยป็อกบาถูกเปลี่ยนตัวลงสนามไปเพียง 7 เกม มีเวลาอยู่ในสนามแค่ 225 นาที แม้แต่ช่วงที่นักเตะกองกลางคนอื่นพาเหรดกันเจ็บ ท่านเซอร์ก็ยังเลือกใช้นักเตะจากตำแหน่งอื่นลงเล่นแทน แถมยังไปดึง พอล สโคลส์ กลับมาจากการแขวนสตั๊ด ยิ่งเป็นการตัดโอกาสลงสนามของเขาเข้าไปอีก

ป็อกบามั่นใจว่าด้วยความสามารถที่มี เขาควรจะได้โอกาสลงสนามมากกว่านี้ แต่เมื่อไม่ได้รับความไว้วางใจจากเจ้านาย ความคิดเรื่องการย้ายทีมจึงเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ได้ มิโน ไรโอล่า เข้ามาเป็นเอเยนต์ส่วนตัว ป็อกบาจึงปฏิเสธสัญญาฉบับใหม่จากปีศาจแดง โดยปล่อยให้สัญญาสิ้นสุดลงแล้วเลือกย้ายไปยูเวนตุสเมื่อสิ้นฤดูกาล

ป็อกบาในวัย 19 ปีใช้เวลาปรับตัวที่อิตาลีไม่นานก็กลายเป็นกำลังหลักให้กับทีมม้าลาย นอกจากจะได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอแล้ว เขายังได้เล่นร่วมกับ อังเดร ปิร์โล มิดฟิลด์เบอร์ต้น ๆ ของโลก ทำให้ฝีเท้าของป็อกบาพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นนักเตะระดับโลกในที่สุด

ซานโชโมเดล

จาดอน ซานโช ถูกดึงสู่อคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ตั้งแต่อายุ 14 ปี เขามีส่วนช่วยให้ทีมเยาวชนเรือใบสีฟ้าเข้ารอบชิงชนะเลิศเอฟเอยูธคัพ 2 ปีติดกัน แม้จะไปไม่ถึงแชมป์ แต่ก็ทำให้ปีกวัย 17 ก็กลายเป็นนักเตะดาวรุ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุด

ในฤดูกาล 2016-17 ซานโช ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงกับทีมเยาวชน โดยยิงไปถึง 20 ประตู แต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแลจากเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในการเรียกขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ แม้แต่ช่วงที่ทีมหมดลุ้นแชมป์ไปแล้วก็ตาม ประกอบกับเวลานั้นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อุดมไปด้วยนักเตะต่างชาติที่ซื้อเข้ามา จนทำให้เกิดความไม่มั่นใจว่าจะได้รับโอกาสลงสนามในอนาคต ยิ่งเมื่อโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทาบทามผ่านเอเยนต์ส่วนตัว ซานโชในวัย 17 ปีจึงเลือกปฏิเสธสัญญาจากทีมเรือใบ แล้วออกไปผจญภัยยังเมืองเบียร์แทน

ซานโช ใช้เวลาเพียง 2 ปี ก็ก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งปีก ถือเป็นนักเตะอังกฤษคนแรกที่ลงเล่นให้ทีมเสือเหลือง ก่อนจะกลายเป็นนักเตะที่แอสซิสต์มากที่สุดในลีก รวมไปถึงนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำได้ 25 ประตูในศึกบุนเดสลีกา

บทเรียนจากสองโมเดล

จากเคสของป็อกบาและซานโช ทำให้เหล่านักเตะดาวรุ่งอังกฤษมีความหวังมากขึ้น เพราะหากมีความสามารถ แต่ไม่ได้รับโอกาสจากสโมสร การย้ายไปอยู่กับสโมสรใหญ่ในต่างแดนที่พร้อมหยิบยื่นโอกาสให้ ก็น่าจะช่วยให้เส้นทางอาชีพสดใสมากกว่าการเลือกลงไปเล่นในลีกระดับล่างด้วยสัญญายืมตัว