จบกันไปสักพักแล้วสำหรับศึกการแข่งขันพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2018/2019 ก็ต้องบอกเลยว่าในซีซั่นนี้ค่อนข้างสูสีดุเดือด จนถึงวินาทีสุดท้ายเลยทีเดียว โดยท้ายที่สุดแล้วเป็นทางสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สามารถปักธงแห่งชัยชนะและคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ

แน่นอนว่าสำหรับเหล่าแฟนบอลของสโมสรหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่รอคอยแชมป์มายาวนานกว่า 29 ปี คงรู้สึกผิดหวังไปตาม ๆ กัน แต่หากมองในอีกมุมหนึ่งการจบอันดับเป็นรองแชมป์ที่มีคะแนนสูงที่สุดในศึกฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษ ก็ถือเป็นเครื่องการันตีได้เป็นอย่างดีว่าสโมสรกำลังอยู่ในเส้นทางที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่อีกครั้งเหมือนดั่งในอดีต โดยเราจะไม่ขอกล่าวถึงบรรดาเหล่านักเตะที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้ เพราะเชื่อว่าคงมีการพูดถึงกันเยอะแล้ว แต่วันนี้ VWIN จะพาเหล่าแฟนบอลไประลึกถึง 2 บุคคลสำคัญที่เข้ามาพลิกโฉมสโมสรกันดีกว่า

โครงสร้างสโมสรเปลี่ยนไปตั้งแต่ได้เจ้าของคนใหม่

ก็ต้องบอกเลยว่าในช่วงแรกตอนที่ จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่ และ เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป ได้เข้ามาบริหาร แฟนบอลต่างไม่ได้รู้สึกดีมากนัก เพราะล้วนติดภาพของคู่หูเจ้าของกิจการชาวอเมริกันยุคก่อนที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อจากสโมสรมาโดยตลอด แต่พอเวลาผ่านไปด้วยวิธีการทำงานที่ค่อย ๆ เข้ามารื้อปัญหาอย่างตรงจุดและไม่รีบร้อนทำอะไรตามกระแส ทำให้สุดท้ายสโมสรก็เริ่มสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้อย่างมั่นคง

และจุดที่เชื่อว่าแฟนบอลจะเห็นตรงกันที่สุดนั่นก็คือ ความเชื่อมั่นที่มีต่อตัวผู้จัดการทีมและพร้อมทุ่มเงิน 75 ล้านปอนด์ให้กับกองหลังคนหนึ่งที่ไม่ได้มีชื่อเสียงระดับโลก แถมยังไม่มีการบีบบังคับหรือเร่งรีบให้หาตัวแทนมาแก้ขัดแบบขอไปที ทำให้สุดท้ายก็ได้จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญมาเติมเต็มให้สามารถก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์ได้สำเร็จ

ชายผู้ให้ความสำคัญที่คุณค่ามากกว่าเงินตรา เจอร์เก้น คล็อปป์

วินาทีแรกที่ก้าวเข้ามาดำรงตำแหน่งกุนซือของทางลิเวอร์พูล เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้กล่าวว่า “ผมได้รับการติดต่อจากหลาย ๆ ทีม แต่ไม่มีแผนงานไหนเลยที่จะทำให้ผมตื่นเต้นได้เท่ากับทาง ลิเวอร์พูล โอเคว่าถ้าผมไปทีมอื่นอาจจะมีโอกาสคว้าแชมป์ได้ง่ายกว่า แต่มันจะมีความสำคัญเท่ากับการปลุกสโมสรอย่างลิเวอร์พลูให้กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งไหมล่ะ”

ถึงจุดนี้เชื่อว่าแฟน ๆ ลิเวอร์พูลหลาย ๆ คนคงยิ้มไปตามกันหลังจากได้รู้ถึงบทสัมภาษณ์ โดยต้องยอมรับความจริงกันก่อนว่าในช่วงเวลานั้นทางสโมสรค่อนข้างจะมีข้อจำกัดในการเฟ้นหาผู้จัดการทีมเข้ามารับตำแหน่ง เพราะไม่สามารถนำเงินมาวางเพื่อล่อใจแก่เหล่าผู้จัดการทีมฝีมือฉกาจได้ ซึ่งต่างกับทาง เชลซี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือแม้กระทั่งทีมคู้แค้นอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยสิ้นเชิง แต่ทางคล็อปป์เองกลับไม่นำเรื่องดังกล่าวมาคิดแม้แต่นิดเดียว ทั้งที่ในขณะนั้นเจ้าตัวก็ได้รับการทาบทามจากเหล่าสโมสรยักษ์ใหญ่มากมายทั่วทั้งยุโรป จนสุดท้ายได้กลายมาเป็นกำลังสำคัญให้สโมสรคืนชีพและกลับมาผลงานได้อย่างโดดเด่นจนกลายเป็นทีมอันดับต้น ๆ ของโลก

แน่นอนว่านักเตะก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมที่ผลงานที่ดีอยู่ในตอนนี้ แต่หากพูดกันตรง ๆ ก็คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทั้งสองคนที่เรากล่าวมา คือกุญแจสำคัญที่เข้ามาปลดล็อกให้ทางสโมสรกลับมาโบยบินอย่างยิ่งใหญ่เพื่อรอวันที่จะคืนสู่บัลลังก์จุดสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษอีกครั้ง