การเหยียดผิวในวงการฟุตบอลยุโรปจากอังกฤษข้ามไปถึงอิตาลี แต่มีความแตกต่างในการจัดการระหว่างสองลีกอย่างมาก ที่อังกฤษพวกเขาเอาเป็นเอาตายกับการหาตัวคนกระทำผิด ลงโทษด้วยมาตรการรุนแรง ส่วนสโมสรได้รับแค่การตักเตือนให้ควบคุมเรื่องนี้ให้เข้มงวดขึ้น แต่ที่อิตาลี ฝ่ายที่ถูกลงโทษคือสโมสร

เกมใหญ่ระหว่างอินเตอร์ มิลานกับนาโปลีนั้นถ้าไม่นับเรื่องพฤติกรรมเหยียดผิวของแฟนบอลงูใหญ่แล้ว ถือเป็นเกมที่สนุกและเข้มข้น แต่พอมีเหตุการณ์ดังกล่าวทุกอย่างในสนามที่สู้กันสุดฝีมือก็ไม่มีความหมาย คาลิดู คูลิบาลี่ กองหลังเซเนกัลของทีมเยือนตกเป็นเป้าโจมตีของแฟนบอลไร้มารยาทตลอดทั้งเกม เท่านั้นไม่พอแฟนบอลยังเสียชีวิตจากเหตุการณ์รถชนใกล้สนามแข่งหลังจบเกมระหว่างที่กำลังมีเรื่องกับแฟนบอลคู่แข่งด้วย อินเตอร์ มิลานโดนบทลงโทษห้ามแฟนบอลเข้าชมเกมสองนัดในบ้าน และอีกหนึ่งนัดในการห้ามแฟนบอลตามไปเยือน

ลูเซียโน่ สเปลเลตติ โค้ชของอินเตอร์ มิลานยอมรับว่าเขารู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้น มันควรจะพอเสียทีในหลาย ๆ เรื่องที่ไม่เป็นผลดีต่อเกมฟุตบอล ในเรื่องที่เกิดขึ้นกับคูลิบาลี่ อินเตอร์ มิลานก็จะอยู่ข้างเขาถึงเขาจะเป็นคู่แข่ง รวมไปถึงทุกคนที่ตกเป็นเป้าโดนเล่นงานแบบเดียวกัน นอกจากนี้เขายังยอมรับว่าการโดนสั่งเล่นในสนามปิดเป็นราคาที่สโมสรต้องจ่ายเพื่อชดเชยกับสิ่งนี้เป็นการสมควรแล้ว

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ธรรมดาเพราะขนาดกุยเซ็ปเป้ คอนเต้ นายกรัฐมนตรีของประเทศยังออกความเห็นว่าลีกควรหยุดเพื่อจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย แถมออกความเห็นว่าถ้าเป็นตัวเขาจะสั่งหยุดเกมในจังหวะที่เกิดเหตุการณ์เหยียดผิวเดี๋ยวนั้นเลย

เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ทางสมาคมฟุตบอลอิตาลีอยู่เฉยไม่ได้เพราะยูฟ่าและฟิฟโปกระโดดลงมาตามเรื่องนี้เอง หลังจากที่มีกรณีเหยียดผิวเกิดขึ้นต่อเนื่องทั้งในอังกฤษและอิตาลี  แต่ที่อิตาลีนั้นถึงขนาดที่โฆษกสนามร้องขอแล้วก็ยังไม่หยุดการกระทำ แสดงให้เห็นว่ามาตรการควบคุมพฤติกรรมที่ไม่อาจจะยอมรับได้ในสนามของเซเรีย อา ล้าหลังมาก

สำหรับแฟนบอลอินเตอร์ มิลานนั้น การโดนแบนสองสามนัดไม่ใช่เรื่องใหญ่โต พวกเขาก็แค่พลาดการชมเกมไปสองสามเกม เดี๋ยวก็ได้กลับมาเข้าสนามใหม่ ส่วนเรื่องของค่าปรับ ค่าเสียหายเป็นความรับผิดชอบของคนอื่น ซึ่งจุดนี้เองที่กลายเป็นความแตกต่างจากอังกฤษ เมื่อสโมสรในลีกเมืองผู้ดีกล้าแบนยาวตลอดชีวิตและทำเรื่องส่งตำรวจในข้อหาผิดกฏหมายด้วยตัวเอง

ลีกอิตาลีจำเป็นต้องกลับมานั่งทบทวนและร่างกฎเกณฑ์ในการลงโทษที่รุนแรงพอที่จะทำให้แฟนบอลชะงักการกระทำของตน โดยเฉพาะการควบคุมแฟนบอลที่อาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมไม่สวยงาม หรือเป็นต้นเหตุของความรุนแรงอื่น ๆ เพราะบรรดาสโมสรในอิตาลีล้วนมีกลุ่มก้อนกองเชียร์ที่ทำตัวเหนือกฏเกณฑ์ด้วยกันทั้งนั้น ถ้าพวกเขาไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ มูลค่าของลีกที่กำลังฟื้นกลับมามีหวังได้ตกต่ำลงไปอีกหลายขั้น