อีกไม่กี่อึดใจฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ 2019 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สงครามแข้งของทีมชาติในเอเชียจะเริ่มต้นขึ้น มันเป็นเกมหาทีมที่เก่งที่สุดในเอเชียซึ่งจัดมาแล้ว 16 ครั้ง แต่ครั้งนี้ซึ่งเป็นหนที่ 17 สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียหรือเอเอฟซีตัดสินใจเพิ่มทีมเป็น 24 ทีม มากขึ้นจากครั้งก่อน 8 ทีม ทำให้มันเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นและยาวนานขึ้น

มี 12 ทีมที่ได้อานิสงส์จากการที่เข้ารอบสุดท้ายรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 โซนเอเชีย โดยไม่ต้องไปเล่นคัดเลือกรายการเอเชี่ยนคัพอีก ทำให้ต้องมีการเพิ่มจำนวนทีมเข้ารอบให้มากขึ้นในการเล่นรอบที่ 3 ซึ่งรับได้เพิ่มอีก 12 ทีม แน่นอนว่าการเพิ่มทีมให้มากขึ้นย่อมเป็นโอกาสที่ดีของทีมชาติที่อยู่ในระดับกลาง ๆ และมันก็เป็นไปตามนั้นเพราะเหล่าทีมที่รอดเข้ารอบมาจากการคัดเลือกรอบหลัง มีแค่บาห์เรนกับเกาหลีเหนือที่พอจะเคยเข้าแข่งขันรอบสุดท้ายมากกว่าทีมอื่นที่ 5 กับ 4 ครั้ง และมีทีมที่ผ่านเข้ารอบมาแล้ว 3 ครั้งอย่างอินเดีย, โอมาน, จอร์แดนและเวียดนามได้โอกาสอีกครั้ง

ชาติเล็ก ๆ อย่างเลบานอน, ปาเลสไตน์, เติร์กเมนิสถาน เพิ่งมีโอกาสสัมผัสรายการใหญ่สุดนี้เป็นหนที่สอง แฟนบอลของพวกเขารู้สึกตื่นเต้นไม่ต่างจากชาติที่เพิ่งเข้าร่วมครั้งแรกทั้งฟิลิปปินส์, เยเมนและคีร์กีซสถาน

การที่ชาติเล็ก ๆ ได้มีโอกาสสัมผัสเกมการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ขึ้น ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความสนใจในฟุตบอลเอเชียของแต่ละชาติเท่านั้น แต่ยังได้ช่วยทำให้วงการฟุตบอลเอเชียมีผู้เล่นหน้าใหม่ที่อาจจะสร้างเซอร์ไพรส์จากเกมทัวร์นาเม้นท์ได้ด้วย

ในบรรดาทีมที่มีโอกาสกลับมาเล่นเอเชี่ยนคัพอีกครั้ง ไทย เวียดนามและอินเดียถือเป็นสามทีมที่เรียกกระแสแฟนบอลได้มากที่สุด ไทยกับเวียดนามเข้ารอบครั้งสุดท้ายในฐานะเจ้าภาพร่วมในปี 2007 และไม่ผ่านเข้ารอบรายการใหญ่อีกเลยจนถูกมองว่าเป็นภูมิภาคที่เล่นฟุตบอลได้อ่อนปวกเปียก ทั้งที่ประชากรในชาติคลั่งฟุตบอลถึงขีดสุดแท้ ๆ เช่นเดียวกันกับอินเดียที่เป็นตัวแทนจากเอเชียใต้ ชาติที่มีประชากรมหาศาลแต่วงการฟุตบอลต้อยต่ำกว่าคริกเก็ตแบบคนละชั้น

การที่ไทยสามารถคว้าโควต้าจากการเข้าเล่นรอบ 12 ทีมสุดท้ายตอนคัดบอลโลก และเวียดนามใช้ทีมที่เล่นได้ดีทั้งทัวร์นาเม้นต์ชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งเข้าถึงนัดชิง เอเชี่ยนเกมส์ครั้งล่าสุดก็ได้อันดับ 4 รวมถึงรายการซูซูกิ คัพที่ชนะเลิศได้อีกครั้งในรอบ 10 ปี ทำให้ถูกจับตามองว่าจะยกระดับตัวเองในเวทีเอเชียได้แค่ไหน ส่วนอินเดียด้วยการวางหมากอย่างแยบยล พวกเขาสามารถสร้างทีมขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการกระตุ้นให้เกิดไอลีก ลีกอาชีพที่แข็งแกร่งในประเทศ ลีกพิเศษอย่างอินเดียน ซุปเปอร์ลีกที่ไปคว้าแข้งดังวัยเตรียมแขวนสตั๊ดมาวาดลวดลายเรียกกระแส ทำให้แฟนบอลอินเดียให้ความสนใจเกมฟุตบอลมากขึ้น ยิ่งทีมชาติของพวกเขาไต่อันดับฟีฟ่า แร้งกิ้งได้สูงถึงระดับ 100 ทีมแรกยิ่งทำให้ความมั่นใจของอินเดียมาสูงมากพอ ๆ กับปริมาณแฟนบอลที่หันมาสนใจเกม

การเพิ่มทีมในเอเชี่ยนคัพ ก็คล้ายกับการเพิ่มทีมของฟุตบอลโลกหรือฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้ทีมเล็กได้สัมผัสรายการใหญ่ แต่ยังทำให้จำนวนนัดในการถ่ายทอดสดเพิ่มมากขึ้น เม็ดเงินในการซื้อขายลิขสิทธิ์ก็ขยับตามไป ซึ่งวงการฟุตบอลตอนนี้เรื่องเงินถือเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย