ภายหลังที่ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ประกาศแต่งตั้ง ซีเนดีน ซีดาน อดีตกุนซือชาวฝรั่งเศส ผู้สร้างตำนานการพาสโมสรประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สามสมัยติดต่อกัน กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมอีกครั้ง ก็มีกระแสข่าวเกิดขึ้นอย่างหนาหูว่าทาง ซีดาน ต้องการให้สโมสรเดินหน้าคว้าตัวเหล่าสตาร์ชั้นนำของยุโรป เพื่อถ่ายเลือด
นักเตะใหม่ๆเข้ามาและพาสโมสรกลับมาเดินหน้าคว้าความสำเร็จอีกครั้ง

                หนึ่งในนักเตะที่ทางสื่อชั้นนำของสเปนต่างรายงานว่า นักเตะที่ ซีเนดีน ซีดาน ต้องการให้สโมสรคว้าตัวมาร่วมทีมให้ได้ นั่นคือ ซาดิโอ มาเน่ ปีกความเร็วสูงชาวเซเนกัลของสโมสรหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ปัจจุบันกำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง และเป็นส่วนสำคัญในการช่วยต้นสังกัดไล่ล่าคว้าความสำเร็จในคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อยู่ในขณะนี้ร่วมกันกับผู้เล่นในแนวรุกอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

                แล้วเหตุใด ทำไม ซีดาน ถึงต้องการตัว ซาดิโอ มาเน่

                อย่างแรกต้องยอมรับว่า ปัจจุบันผู้เล่นแนวรุกในตำแหน่งปีกของสโมสร เรอัล มาดริด ต่างประสบปัญหากับฟอร์มการเล่นที่ไม่สม่ำเสมอ จึงไม่น่าแปลกใจที่ภายหลังการกลับมาของกุนซือชาวฝรั่งเศส จะต้องการคว้าตัวนักเตะในตำแหน่งปีกมาเป็นอันดับแรกๆ และก็ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่า มาเน่ ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในขณะนี้

                นอกเหนือจากนั้น ดาวเตะชาวเซเนกัล ยังมีความโดดเด่นเรื่องสภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง ความเร็วที่พร้อมจะกระชากหนีตัวประกบไปได้อย่างง่ายดาย และประสิทธิภาพการทำลายตาข่ายคู่แข่งที่ยอดเยี่ยม โดยจากสถิติการลงเล่นตลอดฤดูกาลนี้ให้กับสโมสรของ ซาดิโอ มาเน่ พบว่า เจ้าตัวมีค่าเฉลี่ยในการทำลายประตูฝ่ายตรงข้ามอยู่ที่ 0.60 ประตูต่อเกม กระชากผ่านคู่แข่งสำเร็จต่อเกมเฉลี่ย 1.6 ครั้ง โดยมีสถิติที่เหนือกว่า ดาวเตะในทีมราชันชุดขาวคนปัจจุบันอย่าง แกเร็ธ เบล ที่มีค่าเฉลี่ยในการทำประตูและการเลี้ยงผ่านคู่แข่งสำเร็จในฤดูกาลนี้อยู่ที่เพียงแค่ 0.47 ประตูและ 0.8 ครั้งตามลำดับ

                และที่ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความทุ่มเทและความฟิตที่ไม่มีหมด ทำให้ ซาดิโอ มาเน่ ไม่ได้มีดีเพียงแค่การเล่นในเกมรุก แต่ยังช่วยเหลือทีมในเรื่องของเกมรับด้วย โดยภาพที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล พบเห็นได้อย่างชินตา คือภาพที่นักเตะรายนี้พยายามวิ่งไล่เอาบอลคืนจากคู่แข่งและสวนกลับอย่างรวดเร็ว รวมถึงเมื่อดูจากสถิติในฤดูกาลนี้จะพบว่า มาเน่ มีสถิติในการสกัดคู่แข่งสำเร็จอยู่ที่ 1.1 ครั้งต่อเกมเลยทีเดียว

                โดยที่กล่าวมาทั้งหมด ยังไม่ร่วมถึงจุดเด่นอีกอย่าง นั่นคือด้านความเป็นมืออาชีพของเจ้าตัว ที่มักจะไม่เคยเรียกร้องหรือมีปัญหาใดๆกับทางสโมสรและผู้จัดการทีม เรียกได้ว่าเปรียบดั่งขุนพลข้างกายที่พร้อมน้อมรับคำบัญชาจากกุนซือได้โดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งจุดนี้แหละ ที่อาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการพาสโมสรกลับไปสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง