การมาของโควิด-19 สร้างความลำบากให้แก่คนทั่วโลกทั้งการใช้ชีวิตที่ต้องเปลี่ยนไปและเศรษฐกิจที่ส่งผลทั้งโครงสร้างจนโลกหลังโรคระบาดจะเปลี่ยนไปอย่างถาวร ถึงวงการฟุตบอลก็หนีไม่พ้นความวุ่นวายนี้เช่นกัน อย่างเช่นการเลื่อนการแข่งขันที่ทำให้ฤดูกาลนี้ต้องยืดออกไป หรือการแข่งขันฟุตบอลระดับทวีปอย่างการชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปที่ต้องเกิดขึ้นในปี 2020 ต้องเลื่อนไปอีก 1 ปีเพื่อความพร้อมของทั้งตัวนักเตะและการเดินทางที่โรคระบาดทำให้การข้ามเหตุแดนต้องเป็นไปอย่างเข้มงวดและการไปต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่เคย นอกจากนี้เนื่องจากเศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว นั่นก็ทำให้การซื้อขายนักเตะต้องเปลี่ยนอย่างแน่นอน ทั้งวิธีการซื้อขายและการเฟ้นหาตัวผู้เล่นใหม่ ๆ อาจจะมีข้อจำกัดมากมายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

อาจไม่มีพื้นที่สำหรับนักเตะต่างถิ่น

เพราะการเดินทางที่เป็นไปอย่างยากลำบากทำให้การย้ายถิ่นฐานของนักเตะเป็นเรื่องยากเช่นกัน หากลองนึกตัวอย่างง่าย ๆ ว่า ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนนักเตะที่ใกล้จะจบอาชีพอาจจะหันไปหาประเทศจีนที่พร้อมจะทุ่มเงินเพื่อซื้อนักเตะระดับโลกเพื่อการแข่งขันที่สูงมากในลีก หรือจะเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาที่ตอนนี้พยายามยกระดับเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ขึ้นมาให้เท่าเทียมกับลีกอื่น ๆ ในอเมริกาใต้ แต่ถ้าเป็นปัจจุบันคงไม่มีใครกล้าเสี่ยงซื้อนักเตะจากอเมริกาหรือนักเตะชื่อดังในลีกชั้นนำยุโรปคงไม่กล้าย้ายไปเล่นในประเทศที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 สูงอย่างสหรัฐหรือประเทศที่หลายคนเชื่อกันว่าเป็นต้นตอของโรคระบาดอย่างประเทศจีน นั่นก็หมายความว่าการย้ายทีมข้ามทวีปเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้น หรือแม้แต่จุดเริ่มต้นก่อนที่ทั่วยุโรปจะต้องระงับการแข่งขันฟุตบอลก็เพราะมีนักฟุตบอลที่ติดเชื้อหลังจากกลับมาจากการแข่งขันในต่างประเทศนั่นเอง ฉะนั้นการซื้อขายนักเตะอาจจะไม่ง่ายดังเดิมอีกต่อไป

อาจไม่มีการทุ่มเงินโดยไม่จำเป็น

เป็นเรื่องปกติที่ทุกตลาดซื้อขายนักเตะจะต้องมีการย้ายทีมเพื่อปรับปรุงทีม โดยขายนักเตะส่วนเกินออกไปและซื้อผู้เล่นที่เหมาะสมกว่าเข้ามาแทน ซึ่งหลายครั้งที่แฟนบอลจะเห็นทีมใหญ่ทุ่มเงินเพื่อซื้อนักเตะฝีมือดีเข้ามาเพื่อให้ทีมประสบความสำเร็จ แต่ทว่าในปีนี้อาจจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป เพราะว่าด้วยเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงอย่างหนักและทีมฟุตบอลเองต่างก็ไม่สามารถขายตั๋วปีให้กับแฟนบอลได้ เพราะมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมทำให้ฟุตบอลต้องลงเล่นในสนามที่ปิด และแฟน ๆ ไม่สามารถเข้าชมได้เหมือนอย่างเคย ปัจจัยที่กล่าวมาทำให้ทีมมีรายได้ที่ลดลง และการซื้อตัวนักเตะในราคาแพงอาจจะไม่คุ้มอีกต่อไป รวมถึงสิ่งที่ตามมาก็คือราคานักฟุตบอลที่เคยพุ่งสูงจนนักเตะฝีมือธรรมดาอาจมีราคาเกิน 15 ล้านปอนด์ไปแล้ว อาจจะตกลงมาอย่างที่ควรจะเป็นและนี่อาจจะเป็นวิธีปรับสมดุลให้กับโลกฟุตบอลอีกครั้งนึงก็เป็นได้

สิ่งที่ต้องติดตามต่อไปก็คือ สุดท้ายแล้วทีมฟุตบอลจะสามารถเอาตัวรอดจากการผลกระทบที่คาดไม่ถึง หรือไม่ ส่วนหนึ่งก็เพราะการขาดรายได้หรือการซื้อนักเตะที่เป็นไปได้ยากมากขึ้นอาจจะทำให้ทีมของพวกเขา ไม่พร้อมที่จะรักษามาตรฐานและอาจจะนำไปสู่การชวดแชมป์หรือตกชั้นเลยทีเดียว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าทีมฟุตบอลจะปรับตัวอย่างไรกับวิถีชีวิตใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้