ความแตกต่างของทีมอาร์เซน่อลกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกคืออะไร เหตุผลที่เชลซีในปี 2001 กับในปี 2004 กลับเป็นคนละทีมโดยสิ้นเชิง นั่นก็เพราะพวกเขาได้เจ้าของใหม่และส่งผลให้ทีมประสบความสำเร็จในอนาคต และในอีกด้านหนึ่งทำไมทีมนิวคาสเซิ่ลในยุค 2001 กับในปี 2009 ถึงต่างมีชะตากรรมที่ต่างออกไป หรือทิศทางของแบล็คเบิร์น โรเวอร์ที่เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 1995 แต่กลายเป็นทีมที่ต้องตกชั้นในปี 2012 แทนเหตุผลก็เพราะพวกเขาได้เจ้าของใหม่อีกนั่นเอง ทั้งสองทางเป็นตัวอย่างที่ดีกว่าถ้าหากทีมใดมีการเปลี่ยนแปลงในเจ้าของทีมก็เหมือนอยู่ในทางแยกที่เขาอาจจะกลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จอันใกล้หรืออาจจะถูกกอบโกยโดยผู้บริหารจอมโลภจนทีมต้องไปสู่ยุคมืดในที่สุด

เจ้าของทีมจอมโลภกับจุดหักเหของทีมต่าง ๆ

สโมสรแบล็คเบิร์น โรเวอร์คือตัวอย่างที่ดีที่สุดของทีมฟุตบอลที่มีการเปลี่ยนเจ้าของทีมจนทีมต้องตกต่ำกว่าเดิม เพราะก่อนที่พวกเขาจะได้วีเอชกรุ๊ปมาเป็นเจ้าของพวกเขาในปี 2010 พวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงทีมเป็นอย่างแรกเลยก็คือปลดผู้จัดการทีมมากประสบการณ์อย่างแซม อัลลาไดซ์ แล้วแต่งตั้งสตีฟ คีนมาเป็นผู้จัดการทีมซึ่งเป็นที่น่าตกใจของแฟนบอลเป็นอย่างมาก เพราะคีนไม่ใช่ผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์อะไรและมีข่าวลือกันว่าผู้จัดการส่วนตัวของคีนอย่างเจอโรม แอนเดอร์สันว่ามีส่วนทำให้กลุ่มวีเอชสามารถซื้อสโมสรได้สำเร็จ และแน่นอนว่าจุดจบของสโมสรในการเล่นในลีกสูงสุดก็มาถึงเมื่อแบล็คเบิร์นจบฤดูกาลด้วยอับดับรองบ๊วยและมีเพียง 31 แต้มจนต้องตกไปอยู่ลีกรองอย่างแชมเปียนส์เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ซึ่งเรื่องราวยังไม่จบแค่นั้นเมื่ออีก 5 ปี ต่อมาทีมกุหลาบไฟกลับต้องตกชั้นไปอยู่ลีกวันหรือลีกอันดับสามของประเทศ ก่อนที่จะใช้เวลา 1 ปีเพื่อกลับมาอยู่ลีกแชมเปียนส์ชิพอีกครั้งและยังไม่สามารถหลุดพ้นกลับขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีกจนถึงปัจจุบัน

เจ้าของทีมจอมทุ่มและถ้วยรางวัลประดับตู้

ในทางตรงกันข้าม สโมสรอย่างเชลซีหรือแมนเชสเตอร์ ซิตี้หรือแม้แต่เลสเตอร์ ซิตี้ก็ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการมีเจ้าของทีมที่ต้องการเห็นความสำเร็จจริง ๆ กับสโมสรนั้น ๆ อย่างเชลซีที่มีโรมัน อัมบราโมวิชเศรษฐีชาวรัสเซียที่ยอมทุ่มเงินซื้อนักเตะระดับโลกเข้ามารวมถึงผู้จัดการทีมอย่างโชเซ่ โมรินโญ่หรือคาร์โล อันเชล็อตติที่ทำให้พวกเขากลายเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในที่สุด ส่วนทางด้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่โดนคู่ปรับร่วมเมืองอย่างปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกดขี่มาตลอดจากยุครุ่งเรืองนับตั้งแต่ยุค 90 จนกระทั่งการมาของกลุ่มอาบูดาบีทำให้พวกเขาสามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดตัดหน้าทีมปีศาจแรกไปแบบเจ็บช้ำที่สุดในสมัยแรกของพวกเขา หรือผลงานในปัจจุบันที่ทีมผีแดงไม่มียอดผู้จัดการทีมอย่างเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันคอยดูแลทีมอีกต่อไป แต่ในทางกลับกันทีมเรือใบสีฟ้าสามารถจ้างผู้จัดการทีมไฟแรงและมากความสามารถอย่างเป็น กวาดิโอลามาดูแลและพาทีมเป็นแชมป์พรีเมียร์ได้อีกสองสมัยรวด จนกระแสการเรียกร้องเจ้าของใหม่ของทีมปีศาจเริ่มมีการส่งเสียงออกมาบ้างแล้วจากกลุ่มแฟน ๆ

แม้ว่าการเปลี่ยนเจ้าของจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทีมได้แบบหน้ามือเป็นหลังมือภายในเวลาอันสั้น เพราะบางทีมอย่างเอฟเวอร์ตันหรือฟูแล่มก็ไม่สามารถพาทีมบินสูงได้อย่างที่ควรจะเป็นแม้ว่าเจ้าของจะทุ่มเทให้กับสโมสรก็ตาม ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจก็คงเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากขึ้นในยุคที่มีโรคระบาดและทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกต้องถูกกระทบอย่างรุนแรงจนวงการฟุตบอลก็ไม่สามารถเลี่ยงได้เช่นกัน ก็ได้แต่หวังว่าขอให้เจ้าของทีมให้ใจกับสโมสรและฟังเสียงเรียกร้องของแฟน ๆ ก็เพียงพอแล้ว อย่างที่เราเห็นได้ทั่วไปในฟุตบอลอีกลีกดังอย่างเยอรมันนั่นเอง