ภายหลังจากผลงานการคุมทัพปีศาจแดงชั่วคราว ที่พาทีมโชว์ฟอร์มอย่างร้อนแรงจนทำให้ล่าสุดทางสโมสร ต้องประกาศแต่งตั้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นผู้จัดการทีมอย่างเป็นทางการ สมกับฉายาซูเปอร์ซับ ที่สามารถเข้ามาช่วยทีมให้พ้นจากช่วงเวลาที่ยากลำบากได้อีกครั้ง แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ว่า เบื้องหลังชีวิตของกุนซือหน้าทารกรายนี้ มีความน่าสนใจเพียงใด

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ในวัยทารกน้อยได้ถือกำเนิดเมื่อปี 1973 ที่ประเทศนอร์เวย์  โดยที่ได้ถูกตั้งความหวังจากคุณพ่อที่เป็นนักมวยปล้ำอาชีพฝีมือฉกาจ การันตีจากการคว้าแชมป์ภายในประเทศกว่า 5 สมัย ให้ฝึกฝนและเติบโตขึ้นเป็นนักมวยปล้ำชั้นแนวหน้า แต่ด้วยร่างกายที่ค่อนข้างอ่อนเอ ทำให้สุดท้ายไม่สามารถเดินตามความฝันของคุณพ่อได้สำเร็จ

แต่ในวัยเด็กนอกเหนือจากเวลาที่ใช้ในการฝึกฝนทักษะมวยปล้ำแล้ว โซลชา จะใช้เวลาทั้งหมดไปกับการดูรายการฟุตบอลอังกฤษ จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาเริ่มหันมาเล่นกีฬาฟุตบอล และด้วยความตั้งใจในการฝึกฝนทักษะของตัวเอง จึงทำให้ได้มีโอกาสเล่นร่วมกับทีมประจำท้องถิ่น ในวัยเพียง 8 ขวบเท่านั้น

เมื่อก้าวเข้าสู่วัยรุ่น โซลชา ที่ได้บ่มเพาะศักยภาพในการเป็นนักเตะมาอย่างต่อเนื่อง ก็ได้เข้าสู่ทีมเยาวชนและได้เล่นให้กับทีมในดิวิชั่น 3 อย่าง เคลาเซเนนเก้น จนผลงานไปเตะตาทีมในระดับลีกสูงสุดอย่าง โมลด์ และใช้เวลาเพียงไม่นานในการสร้างชื่อจนได้ขนานนามจากแฟนบอลว่า  อลัน เชียร์เรอร์ แห่งประเทศนอร์เวย์ โดยโซลชา ก็ไม่ได้หลงระเริงไปกับชื่อเสียงที่ได้รับ แต่กลับตั้งใจขยันฝึกซ้อมมากยิ่งขึ้น โดยหวังแต่เพียงว่าวันหนึ่ง จะได้ย้ายไปเล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษ

และจากฟอร์มอันร้อนแรงที่ซัดไป 31 ประตูตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ย้ายมาร่วมทีม ส่งผลให้ฟอร์มดันไปเตะตากับผู้ที่จะมาเปลี่ยนอนาคตเขาไปตลอดการอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ในขณะนั้นพึ่งผิดหวังจากการพยายามคว้าตัวสุดยอดกองหน้าที่ โซลชา เคยถูกนำไปเปรียบเทียบอย่าง อลัน เชียร์เรอร์ เป็นเหตุให้ทางสโมสรตัดสินใจเซ็นสัญญา โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ดาวยิงจากประเทศนอร์เวย์ ที่แฟนบอลประเทศอังกฤษในยุคสมัยนั้นแทบไม่มีใครรู้จักเขาเลย โดยในปีแรกเขาได้กลบเสียงวิจารณ์และข้อสงสัยในตัวเขาทันที เมื่อจัดการยิงประตูให้กับทีมไปถึง 18 ประตูในลีก พร้อมคว้าตำแหน่งดาวซัลโวของทีมและพาสโมสรคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ในที่สุด

แต่แล้วในปี 1998-1999 สโมสรก็ได้ตัดสินใจเซ็นกองหน้ามาอีกรายนั้นคือ ดไวท์ ยอร์ค ทำให้เกิดกระแสข่าวการย้ายทีมของ โซลชา เกิดขึ้นทันที อย่างไรก็ดี ดาวยิงชาวนอร์เวย์กลับปฏิเสธการย้ายทีมและพร้อมเข้าร่วมแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งกองหน้าตัวจริง โดยที่เจ้าตัวอาจไม่รู้ว่าการตัดสินใจนี้ จะเป็นการเปิดประตูไปสู่การเป็นตำนานที่เข้าไปครองใจเหล่าแฟนๆสาวกปีศาจแดงในภายหลัง

ในเวลาต่อมาโซลชา ได้ถูกปรับเปลี่ยนบทบาทมาเป็นกองหน้าตัวสำรองของทีมบ่อยครั้ง แต่ด้วยความสามารถในการยิงประตูในช่วงเวลาสำคัญของทีม พาทีมพลิกกลับมาเอาชนะ หรือคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการได้เสมอ ทำให้ โซลชา ได้รับการขนานนามจากสื่อและแฟนบอลว่า สุดยอดกองหน้าซูเปอร์ซับ โดยสิ่งที่ถูกกล่าวขานมากที่สุด คือการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่เจอกับสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ในปี 1999 ที่ในขณะนั้นทีมตามหลังอยู่ 1-0  โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ถูกส่งลงไปแทนกองหน้าในขณะนั้นอย่าง แอนดี้ โคล ในนาทีที่ 81 และช่วงเวลาหลังจากนั้น คือสิ่งที่เรียกว่า “ตำนาน”